ศาลยุติธรรม เปิด ‘แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง’

ศาลยุติธรรม เปิด ‘แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง’

ศาลยุติธรรม ทำการเปิดตัว แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง เพื่อเป็นขยายขอบเขตการคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ในวันนี้ (27 มกราคม 2565) ศาลยุติธรรม ทำการเปิดตัว แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นขยายขอบเขตการคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบต่าง ๆ จากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นฉ้อโกง, สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา และอื่น ๆ

โดยสามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชม. ในการดำเนินการฟ้องร้องนั้น 

ไม่มีการจำกัดมูลค่าวงเงินในร้องเรียน ซึ่งจะเน้นการใช้งานหลักฐานสั่งซื้อจ่ายเงิน และที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในการยื่นประกอบการพิจารณา ผู้ฟ้องร้องสามารถติดตามความคืบหน้าของคดีได้ภายในระยะเวลาดำเนินการ 12 ชม.

นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังได้รับความร่วมมือจาก ธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนาช่องทางยื่นเรื่องผ่านทาง e-Filing  – https://efiling3.coj.go.th/citizen/ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ผ่านการลงทะเบียน และดำเนินการตามขั้นตอนของเว็บไซต์

การดำเนินการดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นไปตามสโลแกนของนโยบายการบริหารงานยุติธรรมประจำปี 2564-2565 – ความยุติธรรมที่เข้าถึงง่าย

ขั้นตอนการยื่นฟ้องคดีซื้อขายออนไลน์

1) เข้าไปที่เว็บไซต์ https://efiling3.coj.go.th/eFiling หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของศาลแพ่ง เริ่มสร้างบัญชีผู้ใช้งาน โดยเลือกประเภทผู้ใช้งานสำหรับประชาชน ลงทะเบียนผู้ใช้งานในระบบ (สำหรับผู้ใช้งานใหม่)

2) หลังจากลงทะเบียนแล้ว ล็อกอิน (Log in) เข้าสู่ระบบยืนยันเงื่อนไขการใช้งาน และเลือกเมนูคดีซื้อขายออนไลน์ พร้อมกรอกรายละเอียดคำฟ้อง ประกอบด้วยข้อมูลโจทก์ จำเลย ข้อมูลคำฟ้อง พร้อมแนบเอกสารหรือหลักฐานการซื้อขายสินค้านั้น ๆ มูลเหตุที่เรียกร้อง ข้อมูลความเสียหาย ราคา และสามารถระบุพยานได้ เป็นต้น เมื่อผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายกรอกรายละเอียดและยื่นคำฟ้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบส่งจะคำฟ้องไปถึงเจ้าพนักงานคดีในศาลแพ่งเพื่อทำการตรวจสอบว่า การฟ้อง ข้อเท็จจริงนั้นครบถ้วนหรือไม่ หากคำฟ้องตรงตามเงื่อนไขการพิจารณาคดีซื้อขายออนไลน์และข้อมูลถูกต้องครบถ้วนเจ้าพนักงานคดีจะเสนอคำฟ้องเพื่อให้ศาลรับคำฟ้อง และส่งหมายเรียกแก่จำเลยทางอีเมล เมื่ออีเมลถูกส่งไปยังกล่องข้อความ (Inbox) ของอีเมลจำเลยแล้วจะถือว่าจำเลยได้รับหมายเรียก หรือส่งไปยังทาง SMS หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ อื่น ๆ

3) เมื่อเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว ศาลจะดำเนินการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ วันพิจารณาคดี การสืบพยาน และการไกล่เกลี่ยจะดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ ส่วนกรณีไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จจำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การผ่านระบบออนไลน์และดำเนินการต่อสู้คดีในลำดับต่อไป

โดยคดีซื้อขายออนไลน์ จะสามารถยื่นฟ้องคดีได้ 24 ชั่วโมง เรียกว่ายื่นฟ้องได้ทุกวัน ตลอดเวลาซึ่งคดีจะต้องเป็นการยื่นฟ้องรูปแบบออนไลน์เท่านั้น ขณะที่การฟ้องคดีทางออนไลน์หากฟ้องหลังเวลา 16.30 น. หรือในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะนับวันทำการถัดไปให้ถือเป็นวันฟ้อง ตรงนี้แม้ดูเหมือนจะเป็นข้อจำกัดอยู่บ้างแต่ระบบออนไลน์นั้นก็ช่วยอำนวยความสะดวกที่ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางมาศาลให้ทันเวลาทำการ โดยการยื่นฟ้องสามารถทำที่ไหนก็ได้ ขั้นตอนการยื่นฟ้องของแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่งใช้ระบบศาลอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบในทุกขั้นตอน มีขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย ไม่ต้องเดินทางมาศาลไม่ต้องนำกระดาษมายื่นฟ้องศาลเหมือนคดีปกติได้ อีกทั้งผู้เสียหายสามารถติดตามความคืบหน้าได้ใน 12 ชั่วโมง นับแต่ยื่นเรื่องเข้ามา ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากในการพิจารณาคดีขณะนี้

WHO เตือน โควิดโอมิครอนล่องหน หลังพบผู้ป่วยโควิด BA2 เพิ่มขึ้น

อังกฤษ และ เดนมาร์ก เรียก โควิดโอมิครอน BA2 ว่า โควิดโอมิครอนล่องหน ด้าน WHO จับตาสถานการณ์ใกล้ชิดหลังยอดผู้ป่วยเพิ่ม เมื่อวันที่ 26 มกราคม สำนักข่าว NNY รายงานว่า ทางการอังกฤษและเดนมาร์กได้เรียก โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ BA2 ว่าโควิดล่องหน เนื่องจากมีการกลายพันธุ์จนทำให้เกิดความแตกต่างทางพันธุกรรม และทำให้ตรวจหาเชื้อได้ยาก

โดยขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลกหรือ WHO กำลังจับตามองโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ BA2 เนื่องจากผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ BA2 ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่จัดให้อยู่โควิดสายพันธุ์ที่น่ากังวล

ทั้งนี้ไม่พบว่าโควิดโอมิครอน BA2 นั้นอันตรายกว่าโควิดอื่นๆ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาเบื้องต้น พบว่าโควิด BA2 สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าโควิดโอมิครอนธรรมดา ซึ่งขณะนี้พบโควิดสายพันธุ์โอมิครอน BA2 แล้วมากกว่า 40 ประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา, อินเดีย, สวีเดน, สิงคโปร์ และ ไทย รวมอยู่ด้วย

เจ้าหน้าที่รายงาน คราบน้ำมัน เข้าใกล้ ชายหาดระยอง อยู่ห่างแค่ 4 กม. รับไม่รู้ว่าน้ำมันจะขึ้นจุดไหน ด้านบริษัทน้ำมันรีบขนบีชบูมสกัดน้ำมัน นาย อนันต์ นาคนิยม รองผวจ.ระยอง ได้เดินทางยังบริเวณท่าเรือไออาร์พีซี ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้ากรณี น้ำมันดิบรั่วจากบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งรั่วบริเวณ ท่าเรือมาบตาพุด เป็นจำนวนกว่า 4 แสน

โดยล่าสุดทางบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง ได้ขนบีชบูม ความยาวรวม 350 เมตร มายังริมชายหาดข้างท่าเรือ เพื่อสกัดคราบน้ำมันที่ประชิดเข้ามาใกล้ฝั่ง ซึ่งขณะนี้คราบน้ำมันอยู่ห่างจากฝั่งเพียง 4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่นับร้อยคนระดมกำลังลากบูมโดยใช้เรือประมงลากจูงบีชบูม ออกไปในทะเลเพื่อสกัดคราบน้ำมัน ด้าน นายอนันต์ รอง ผวจ. ระยอง ได้กล่าวว่า ได้มาตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นทางบริษัทได้นำบีชบูมมาเพื่อสกัดคราบน้ำมันที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาเรื่อยๆ โดยยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะขึ้นตรงจุดไหน จึงเป็นการเฝ้าระวังป้องกันไว้ก่อน